นายใหญ่ของแมนเซสเตอร์ ซิตี้ เคยตกเป็นข่าวอย่างหนักกับ ‘ทีมม้าลาย’ ในปี 2019 เมื่อ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันก้าวลงจากตำแหน่งครั้งแรก อย่างไรก็ตามไม่มีการติดต่อหากุนซือชาวสเปน และท้ายที่สุด เมาริซิโอ ซาร์รี่ ก็เข้ามากุมบังเหียนแทน ตั้งแต่นั้นมา เป๊ป ก็เซ็นต่อสัญญาคุมทีมแมนฯ ซิตี้ จนถึงปี 2025 และเพิ่งพา ‘เรือใบสีฟ้า’ คว้าทริปเปิ้ลแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วอีกด้วย อย่างไรก็ตามล่าสุดเทรนเนอร์วัย 52 ปี บอกเป็นนัยว่าการย้ายไปยัง อิตาลีอาจเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของเขาในอนาคต โดยเจ้าตัวกล่าวว่า "ยูเวนตุส? พวกเขาไม่เคยติดต่อหาผมนะ แต่อาหารในอิตาลีอร่อยมาก ผมจะเป็นโค้ชให้พวกเขาไหม? ผมชอบอิตาลีมาก ผมมักจะไปเที่ยวพักผ่อนอยู่บ่อย ๆ" แค่นี้แฟนบอลเรือใบก็ใจเสียกันแล้ว

ทางผู้บริหารของแมนฯ ซิตี้ เองก็เตรียมความพร้อมในการมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่มาแทนที่ เป๊ป ในอนาคต ซึ่งจะต้องเล่นฟุตบอลสไตล์เดียวกับ กวาร์ดิโอล่า และมีมุมมองที่คล้ายกันว่า ควรเล่นเกมอย่างไร เน้นการครองบอลแล้วประยุกต์ใช้มันเพื่อสร้าง โอกาส การทำประตูให้กับทีม ความสามารถในการพัฒนาผู้เล่นทั้งทีมชุดใหญ่และเยาชน บวกกับหาวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างกันในแต่ละเกมและยามที่เจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก เช่นการเตรียมทีมรับมือกับทีมเล็กๆ ในขณะที่พยายามเอาชนะทุกการแข่งขันที่ แมนฯซิตี้ อยู่ในการแข่งขัน ก็มีความสำคัญเช่นกัน

แนวโน้มที่แฟนบอลพอมองเห็นก็คงมี 2 ตัวเต็งถ้ายังไม่ย้ายไปคุมทีมใหม่เสียก่อนก็คือ โรแบร์โต เด แซร์บี ผู้จัดการทีมของ ไบร์ทตัน ที่ได้ขึ้นชื่อในการครองบอลและเกมบุกที่สไตล์คล้ายๆกับของ เป๊ป จนเจ้าตัวเองเคยยอมรับว่า ‘ทีมนกนางนวล’ มีการครองบอลทำเกมบุกได้ดีกว่าตน คนที่สองดูจะไม่ใช่งานง่ายเท่าไรที่จะได้ตัวมาคือ มิเกล อาร์เตต้า อดีตผู้ช่วยของ กวาร์ดิโอล่า ที่คุม อาร์เซน่อล อยู่ในปัจจุบัน แต่อนาคตอีก 2 ปีอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้ากุนซือปืนใหญ่ไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จรางวัลใดๆ เลย

ในฐานะแฟนบอล แมนฯซิตี้ ต้องบอกว่าเราต้องเตรียมพร้อมกับเรื่องนี้อยู่บ้างในการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมและเริ่มต้นเส้นทางใหม่ที่อาจไม่เหมือนเดิมถือว่าเป็นการวัดใจแฟนบอลเลยว่าในยามที่ทีมไม่แข็งแกร่งเช่นเดิม พวกคุณจะยังเชียร์หรือไม่ แล้วกองเชียร์อยากได้ใครมาแทน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า…